คาถาเชิญองค์ประทับร่าง
สวด นะโม 3 จบ
คาถาชุมนุมเทวดา
สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตุติ ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิ ขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละ วิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเกยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
*ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา (* 3 รอบ)
แล้วตั้งจิตให้มั่น นึกถึงองค์ในญาณในของเรา บอกกล่าวให้เค้าเตรียมตัวลงมาประทับ ณ ร่างของตน จากนั้นสวดว่า.........
......ด้วยสายญาณบารมีแห่งองค์ที่แผงอยู่ในร่างข้าพเจ้า จะองค์ใดก็ดี ท่านใดก็ดี องค์สตรีก็ดี องค์บุรุษก็ดี ขอให้มาบังเกิดใน จักขุทวาร โสตะทวาร ฆานะทวาร ชิวหาทวาร กายทวาร มโนทวาร แห่งข้าพเจ้าในกาลบัดนี้ด้วยเถิด.....
จากนั้นก็นั่งสงบสติอารมณ์ หายใจให้หนักและแรง เมื่อทำไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ร่างกายจะเปลี่ยนบุคคลิคทันที แล้วจากนั้นใจอยากจะทำอะไร หรืออยากพูดอะไร ก็ทำตามนั้น พูดตามนั้น เพราะนั้น คือองค์ในของเราบังคับให้ทำ แสดงว่าเค้าลงมาประทับเรียบร้อยแล้ว
คำเตือน
1.ห้ามทำเวลาที่อยู่คนเดียว เด็ดขาด เพราะถ้าเราเป็นอะไรจะไม่มีใครรู้ และอาจจะทำให้เป็นโรคประสาท หรือบ้าได้
2.คนที่ไม่ได้รับการเปิดญาณในหรือองค์ในยังไม่ได้แสดงตัวหรือนิมิตให้เห็นว่าตัวท่านมีองค์ อย่าทำเด็ดขาด เพราะทำให้ตายมันก็ไม่ติด
3.เมื่อองค์ลงประทับแล้ว หากรู้สึกว่านานเกินไปองค์ไม่ยอมถอย ให้คนที่อยู่ด้วยทำการปะทะหลังโดยด่วน (ควรเตี๊ยมกันไว้ก่อน) ประทะหลังก็คือ ตีไปที่หลังแรงๆนั่นเอง
4.เมื่อรู้ตัวว่ามีองค์ ให้เร่งสืบเสาะสำนักร่างทรง เพื่อทำการแต่งขันต์ 5 แล้วรับขันต์ 5 โดยเร็ว
5.เมื่อรับขันต์ 5 แล้ว ต้องปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม รักษาศีลเจริญภาวนาอย่าให้ขาด ไม่งั้นองค์เราเค้าจะเก็บเรากลับหากเราทำเป็นเมินเฉย เก็บกลับก็คือ ดลให้ร่างตายไปนั่นเอง จะยัดสารพัดโรคมาให้ ไม่ตายก็ทรมาร
6.เมื่อได้ชื่อว่าเป็นร่างทรงแล้ว ห้ามเปิดเผยตัวพร่ำเพร่อ เพราะคนอื่นเค้าอาจจะไม่ชอบเรื่องนี้ และอาจจะคิดกับเราในแง่ร้าย แต่ถ้าองค์เค้าจะลงมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ก็ปล่อยเค้าถ้าเค้าจะลงที่ไหนก็ตาม
